ตำนานโน่
ธงผ้าผืนยาวที่ชาวมอญแห่ไปถวายเป็นพุทธบูชาที่เสาหงส์ในเทศกาลสงกรานต์นั้น
เรียกว่า โน่ (โหน่) มาจากตำนานของชายยากจนเข็ญใจต้องการถวายสิ่งของแด่พระพุทธเจ้า
ด้วยความยากจนจึงนำผ้าห่มเก่าของตนมาทำเป็นธงผืนยาวเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาด้วยจิตอันบริสุทธิ์
เมื่อเสียชีวิตลงชายผู้นี้ก็ได้ไปเกิดเป็นพระราชา พรั่งพร้อมด้วยชาติตระกูล
รูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติ อันแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ของศรัทธาต่อพระศาสนา
ตำนานธงตะขาบ
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า มีพระฤๅษี ๔ ตน
เป็นสหายกัน บำเพ็ญตบะอยู่บนยอดเขา ๔ แห่ง
และสัญญากันว่าในทุกปีจะชูธงขึ้นเหนือยอดเขาเพื่อให้ฤๅษีอีก ๓
ตนทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ มิได้ตายจาก หรือหนีไปบรรลุมรรคผลตามลำพัง
ต่อมาฤๅษีตนหนึ่งสิ้นชีวิตลง ได้ไปเกิดเป็นพระราชา
อยู่มาเกิดประชวรหนักรักษาไม่หาย โหรหลวงได้ทูลความแต่ในอดีตชาติที่เป็นพระฤๅษีว่า
พระองค์ได้เสียสัตย์ต่อพระฤๅษีทั้งสาม ต้องไปขอขมาเสีย
พระราชาจึงให้จัดกระบวนเรือเสด็จไปขอขมาพระฤๅษี อาการประชวรจึงหายไป
ขากลับพระราชาได้พบงาช้างกองมหึมาจึงสั่งให้ทหารขนลงเรือกลับพระราชวัง
งาช้างนั้นเป็นของพญาตะขาบ ซึ่งเมื่อพญาตะขาบกลับมาไม่พบงาช้างของตน
จึงได้ออกติดตาม
พญาตะขาบตามมาทันขบวนเรือพระราชาที่กลางมหาสมุทรซึ่งมีปูยักษ์นอนแผ่ก้ามอยู่
เรือของพระราชาแล่นหนีไปโดยเร็ว และผ่านกลางก้ามปูยักษ์รอดไปได้
ทว่าพญาตะขาบซึ่งตัวใหญ่และมีขามากยาวรุงรังหนีไม่พ้น ถูกปูยักษ์หนีบเสียชีวิต
เมื่อเห็นดังนั้นฝ่ายพระราชาจึงสำนึกถึงบาปกรรมที่ได้ก่อขึ้น
ทั้งลักขโมย และยังทำให้เจ้าของถึงแก่ชีวิต เมื่อกลับถึงพระราชวังจึงรับสั่งให้นำงาช้างที่ได้มานั้นสร้างเป็นหอคอยงาช้างสูง
๗ ชั้น แล้วทำธงแขวนไว้เหนือหอคอยนั้น เพื่อรำลึกถึงพญาตะขาบ
ตำนานธงตะขาบจึงเป็นเรื่องราวของการไถ่บาป ดังนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น