ตปุสสะ
ภัลลิกะเป็นพ่อค้าสองพี่น้องชาวอุกกละชนบท เป็นบุตรของกฏุมพีในอสิตัญชนนคร
ทั้งสองเป็นเทววาจิกอุบาสก ปฐมอุบาสกคู่แรกที่ยึดถือสรณะรัตน 2
คือถึงพระพุทธกับพระธรรมก่อนกับพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้ายังตรัสรู้ใหม่ๆ
ยังไม่ได้ประกาศพระศาสนาและยังไม่มีพระภิกษุ
ทรงกำลังเสวยวิมุติสุขหลังจากทรงตรัสรู้ตามที่ต่างๆในอุรุเวลาเสนานิคมเป็นเวลา 7
สัปดาห์ ในพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า หลังจากพระพุทธเจ้าทรงประทับเสวยวิมุติสุขตามที่ต่างๆตลอด
7 สัปดาห์ ท้าวสักกะทรงเห็นว่าพระพุทธองค์ทรงอดพระกระยาหารมาเป็น 47 วันแล้ว
จึงนำผลสมออันเป็นโอสถทิพย์จากเทวโลกลงมาถวาย พระพุทธองค์ก็ได้เสวยผลสมอพระโอสถ
พอเสวยเสร็จ ท้าวสักกะได้ถวายน้ำบ้วนพระโอษฐ์ พระพุทธองค์ก็ทรงบ้วนพระโอษฐ์แล้วประทับนั่งที่โคนต้นไม้ราชายตนะ
ในขณะนั้นได้มีขบวนรถเกวียนพ่อค้าประมาณ
500 เล่มเดินทางผ่านมาใกล้ต้นราชายตนะที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่
ผู้นำขบวนเกวียนพ่อค้ามีสองคนคือตปุสสะและภัลลิกะ
ได้เดินทางมาจากอุกกละชนบทมายังมัชฌิมประเทศเพื่อค้าขาย มีเทวดาตนหนึ่งซึ่งเคยเป็นมารดาของพ่อค้าสองพี่น้องมาแต่อดีตชาติ
ได้เห็นบุตรทั้งสองอยู่ในสังสารวัฏมาช้านานจึงปรารถนาจะสงเคราะห์พวกเขา
จึงได้อธิษฐานให้ขบวนเกวียนหยุดเคลื่อนที่ไม่ให้ไปไหน รถก็หยุดตามคำอธิษฐาน
คนขับเกวียนตีวัวเพื่อให้ฉุดเกวียนเคลื่อนที่แต่ไม่เป็นผล
ตปุสสะและภัลลิกะพากันแปลกใจ เทวดาจึงได้มาปรากฏต่อหน้าพ่อค้าสองพี่น้องและบอกว่า
บัดนี้ได้มีพระมหาบุรุษตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
และทรงประทับที่ต้นราชายตนะใกล้ๆ ถนนที่ขบวนเกวียนอยู่ จึงแนะนำพ่อค้าสองพี่น้องให้ไปเข้าเฝ้าเคารพและนำข้าวสตุก้อนและข้าวสตุผงที่อยู่ในเสบียงมาถวายแก่พระพุทธองค์
เพื่อประโยชน์สุขแก่ทั้งสองตลอดไป
ตปุสสะและภัลลิกะก็ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่ต้นราชายตนะ
และทูลถวายข้าวสตุก้อนและข้าวสตุผงตามคำบอกของเทวดา พระพุทธองค์ทรงรับข้าวสตุก้อนและข้าวสตุผงจากตปุสสะและภัลลิกะ
เมื่อเสวยเสร็จแล้ว
พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงธรรมแก่ตปุสสะและภัลลิกะจนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงประกาศตนเป็นอุบาสกยึดเอาพระพุทธและพระธรรมเป็นที่พึ่ง
นับเป็นปฐมอุบาสกผู้ถึงสรณะ 2 ที่เรียกว่า เทฺววาจิก
และทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระพุทธองค์เพื่อนำไปบูชา พระพุทธองค์ทรงเอาพระกรลูบพระเกศา พระเกศาก็ได้ตกลงมา
8 เส้น มอบให้พ่อค้าทั้งสอง ตปุสสะและภัลลิกะได้นำพระเกศาทั้ง 8
เส้นกลับไปยังอุกกละชนบทและบรรจุไว้ในสถูปเจดีย์ที่อสิตัญชนนคร ทำพิธีเฉลิมฉลองสมโภชเป็นหลายวันหลายคืน
มีตำนานเล่าขานว่าในวันอุโบสถ สถูปเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาทั้ง 8 เส้นได้เปล่งรัศมีสีนิล
ตำนานของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง
ประเทศพม่า
มีตำนานของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองได้เล่าขานไว้ว่า
ตปุสสะและภัลลิกะพ่อค้าพี่น้องทั้งสองนั้นเป็นชาวมอญมาจากเมืองย่างกุ้งได้เดินทางไปค้าขายที่ประเทศอินเดีย
ทั้งสองได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งกำลังประทับอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
และได้ถวายภัตตาหารแด่พระองค์ หลังจากเสวยเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าได้ประทานพระเกศาให้
8 เส้น เมื่อตปุสสะและภัลลิกะเดินทางกลับ พระราชาแห่งอเชตตะได้ขอแบ่งพระเกศธาตุไป
2 เส้น พญานาคขอไปอีก 2 เส้น เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองอสิตันชนะ
พระเจ้าโอกกะละปะก็ได้ทรงประกอบพิธีต้อนรับพระเกศธาตุอย่างยิ่งใหญ่
และได้ทรงคัดเลือกสถานที่บนเขาสิงฆุตตระ นอกประตูเมืองอสิตันชนะ
ให้เป็นที่สร้างพระเจดีย์ เพื่อบรรจุพระเกศธาตุ
แต่ขณะที่กำลังทำการขุดดินก่อสร้างนั้น
ก็ได้ค้นพบพระบริโภคเจดีย์ของอดีตพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ อีก 3 พระองค์ด้วย คือ
ไม้ธารพระกร ภาชนะสำหรับใส่น้ำ และสบง
จึงได้บรรจุของทั้งหมดนี้ในพระเจดีย์พร้อมกับพระเกศธาตุด้วย ก่อนจะบรรจุก็พบว่า
พระเกศธาตุกลับมี 8 เส้นดังเดิม พระเกศธาตุได้บรรจุไว้ภายในเจดีย์ทอง เงิน ดีบุก
ทองแดง ตะกั่ว หินอ่อน และเหล็กตามลำดับ เสร็จแล้วจึงสร้างเจดีย์อิฐสูง 9 เมตรทับไว้ในชั้นแรก
ในกาลต่อมา
พระพุทธองค์ทรงประทับนั่งในพระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี แคว้นโกศล
เมื่อทรงสถาปนาอุบาสกทั้งหลายไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะต่างๆ ตามลำดับ
จึงทรงสถาปนาตปุสสะและภัลลิกะพ่อค้าทั้งสองนี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าอุบาสกทั้งหลาย
ผู้ถึงสรณะก่อนแล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น